วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด

                                                         

                                               แบบฝึกหัด  


1. ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของ E-Commerce คืออะไร
     ตอบ   -- E-Commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่องค์กรได้วางไว้ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทองค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้า เป็นต้น จึงลดข้อจำกัดของระยะทาง และเวลาลงได้ 

2. จงบอกประเภทของ E-Commerce  มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ตอบ -  1.การทำการค้าระหว่าง Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) กับ Business (ผู้ทำการค้า) เช่น ลูกค้าต้องการซื้อหนังสือกับร้านค้า
            2.การทำการค้าระหว่าง Business (ผู้ทำการค้า)  กับ Business ( ผู้ทำการค้า) เช่น ร้านขายหนังสือค้าต้องการสั่งซื้อหนังสือจากโรงพิมพ์
            3.การทำการค้าระหว่าง Business ( ผู้ทำการค้า)  กับ Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) เช่น โรงพิมพ์ต้องการซื้อต้นฉบับจากผู้เขียน4. การทำการค้าระหว่าง Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ)  กับ Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) ด้วยกันเช่น ผู้บริโภคต้องการขายรถยนต์ของต้นเองให้กับผู้บริโภคท่านที่สนใจ 


3.ประโยชน์และข้อจำกัดของ E-Commerce  มีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ
- ประโยชน์
1.เปิดดำเนินการค้า 24 ชั่วโมง
2.ดำเนินการค้าอย่างไร้พรมแดนทั่วโลก
3.ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
4.ตัดปัญหาด้านการเดินทาง
5.ง่ายต่อการประชาสัมพัธ์โดย สามารถประชาสัมพันธ์ได้ทั่วโลก

 
 - ข้อจำกัด
1.ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
2.จำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับอย่างมีประสิทธิภาพ
3.การดำเนินการด้านภาษีต้องชัดเจน
4.ผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต 


4. เทคโนโลยี EDI มีความสำคัญต่อ E-Commerce  อย่างไร
 - เพิ่มความถูกต้อง รวดเร็ว และแม่นยำ ในการรับ-ส่งเอกสาร 
    - ลดงานซ้ำซ้อน และลดขั้นตอนการจัดการรับ-ส่งเอกสาร
    - สามารถนำเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์มากที่สุด
    - ลดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร เช่น ค่าแสตมป์ ค่าพัสดุไปรษณีย์ และพนักงาน
    - เพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่มีการแข่งขันสูงขึ้น
    - เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า 


5. จงยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ B2B, B2C. C2C, B2G มาอย่างล่ะ 2 ตัวอย่าง
ตอบ
- B2B  รูปแบบธุรกิจของพาณิชย์แบบ B2B เช่น B2B Thai.comเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลธุรกิจไทย มีการจัดหมวดหมู่สินค้าตามประเภทอุตสาหกรรม พร้อมระบบในการค้นหาข้อมูลผู้ซื้อ ,ผู้ขาย และสินค้าตามต้องการได้โดยง่าย ช่วยผู้ซื้อลดเวลาค่าใช้จ่าย 

การสั่งสินค้าของร้านซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ท ด้วยระบบอินเทอร์เนตไปยังบริษัท ซีเมนต์ไทยจำกัด (http://www.cementhaionline.com/) 



-B2C    รูปแบบธุรกิจของพาณิชย์แบบ B2C คือ การทำธุรกรรมของธุรกิจต่อผู้บริโภคทั่วไป เช่น http://www.amazon.com/ ธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้า, http://www.jobsdb.com/

    













- C2C  รูปแบบธุรกิจของพาณิชย์แบบ C2C คือ การทำธุรกรรมของผู้บริโภคต่อผู้บริโภคด้วยกันเอง การประกาศซื้อขายสินค้ามือสองใน http://www.thai2hand.com/ การประกาศฝากขายสินค้าในเว็บประมูล เช่น http://www.ebay.com/ หรือการใช้กระทู้สนทนาตามเว็บไซต์ชื่อดังเพื่อขายสินค้า เช่น http://www.pantip.com/ 
click and Motar ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่อิงอยู่กับอุตสาหกรรมเดิม พฤติกรรมของตลาดธุรกิจ จึงแตกต่างไปจากตลาดผู้บริโภคมาก ธุรกิจจะพัฒนาเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างธุรกิจด้วยกันเพื่อ ช่วยลดค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการสั่งสินค้าหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ก่อให้เกิดการไหลของข้อมูลระหว่างธุรกิจ เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์กันในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Relationships) มีการพัฒนาระบบจัดซื้อจัดหาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Procurement) หรือการพัฒนาระบบติดตามสินค้าและการบริการขนส่ง (e-Logistics and Tracking System) ทำให้การดำเนินธุรกิจระหว่างกันมีค่าใช้จ่ายลดลง แต่รวดเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น (E. Turban , 2002 : 219)ไทยเจมส์ (http://www.thaigems.com/) 

- B2G การประกอบธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ที่ใช้กันมากก็คือเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ หรือที่เรียกว่า e-Government Procurement ในประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว รัฐบาลจะทำการซื้อ/จัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เช่นการประกาศจัดจ้างของภาครัฐในเว็บไซต์ www.mahadthai.com

6. วิธีการชำระเงินอิเ้ลกทรอนิกส์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง และท่านเคยใช้หรือไม่อย่างไร
ตอบ- 
 1. บริการ internet banking และ/หรือธุรกิจประเภท Payment Gateway จะเป็น hyperlink ระหว่าง website ของร้านค้ากับระบบของธนาคาร และธนาคารสามารถดำเนินการตามข้อมูลที่ได้รับเพื่อตัดโอนเงินในบัญชีของลูกค้า หรือส่งเป็นคำสั่งโอนเข้าระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน 
         2. สำหรับการชำระเงินที่เป็น Micro Payment การใช้เงินดิจิทัลซึ่งบันทึกบนบัตรสมาร์ตการ์ด หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถสร้างเสริมระบบความปลอดภัยให้มั่นใจได้เหนือกว่าระบบบัตรเดบิตและบัตรเครดิตทั่วไป จึงเป็นแนวโน้มเทคโนโลยีที่น่าสนใจและเเละเหมาะสม



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น