วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด 8-9






       แบบฝึกหัด          
1. ในการวางแผนองค์กร ประกอบด้วยกระบวนการพื้นฐานอะไรบ้าง
ตอบ 1. วิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ขององค์การ
วิสัยทัศน์ : องค์การกำลังมุ่งไปในทิศทางใด
-แผนกลยุทธ์ : องค์การจะเดินไปตามทิศทางที่กำหนดไว้อย่างไร
2. ระบบสารสนเทศจะสนับสนุนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์การอย่างไร
ระบบสารสนเทศจะมีบทบาทในการสนับสนุนวิสัยทัศน์ขององค์การอย่างไร
ระบบสารสนเทศเดิมเป็นอย่างไร
-แผนระบบสารสนเทศในปัจจุบันเป็นอย่างไร
-แผนระบบสารสนเทศในอนาคตจะพัฒนาในลักษณะอย่างไร
3. ระบบสารสนเทศในปัจจุบัน
ระบบปัจจุบันได้สนับสนุนองค์การมากน้อยเพียงไร
ระบบปัจจุบันมีความเหมาะสมหรือไม่ มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร
 -ควรจะปรับปรุงระบบปัจจุบันอย่างไร
4. ระบบสารสนเทศที่เสนอแนะ
 -หลักการและเหตุผล
ความสามารถของระบบใหม่
-  ฮาร์ดแวร์                                                                                          
-ซอร์ฟแวร์
 - ข้อมูล และการสื่อสารข้อมูล
5. กลยุทธ์ทางการบริหาร
  -แผนการจัดหา
 -ช่วงเวลาดำเนินการ
การจัดโครงสร้างองค์การใหม่
 - การปรับปรุงระบบงานภายในองค์การ
การควบคุมทางการบริหาร
 - การฝึกอบรม

2. การวางแผนกลยุทธ์มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งใด
ตอบ การวางแผนเชิงกลยุทธ์นั้น เป็นการวางแผนที่มีการกําหนดวิสัยทัศน์ มีการกําหนดเป้าหมายระยะยาวที่แน่
ชัด มีการวิเคราะห์อนาคตและคิดเชิงการแข่งขัน ที่ต้องการระบบการทํางานที่มีความสามารถในการปรับตัวสูง
สําหรับการทํางานในสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ต้องการ
ระบบการทํางานที่คล่องตัว ต้องการดําเนินงานมีประสิทธิภาพสูงในการนําสู่เป้าหมายในอนาคต สามารถเผชิญกับ
การเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อความอยู่รอด (Survive) และความก้าวหน้า (Growth) ขององค์การของหน่วยงาน หรือ
ของธุรกิจของตนในอนาคต
การวางแผนกลยุทธ์หรือการวางแผนเชิงกลยุทธ์นี้ มีส่วนเป็นอย่างมากต่อการสร้างความเป็นผู้นํา
(Leadership) หรือในการสร้างภาพลักษณ์ (Image) ที่แสดงถึงจุดเด่นของหน่วยงาน ขององค์การหรือของธุรกิจในการ
วางแผนกลยุทธ์นั้น จะมีการกําหนดเป้าหมายรวมขององค์การ สําหรับการดําเนินในอนาคต ที่เรียกว่าวิสัยทัศน์ มี
การคิดในเชิงรุก มุ่งเอาดี เอาเด่น เอาก้าวหน้า ก้าวไกล มุ่งเอาชนะเอาความยิ่งใหญ่ เน้นคุณภาพ เอาความเป็นเลิศ
3. จงสรุปขั้นตอนการวางแผนระบบสารสนเทศมาให้พอเข้าใจ
ตอบ 1.กำหนดเป้าหมาย และวัตถุประสงค์
                   เพื่อยึดเป็นแนวทางในการวางแผนปฏิบัติให้บรรลุตามเป้าหมาย และวัตถุประสงค์นั้น โดยหลักสำคัญของการกำหนดเป้าหมายก็คือ เป้าหมายต้องมีความชัดเจน ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน อยู่บนพื้นฐานของความจริง และปฏิบัติได้
2.  วางแผนสิ่งแวดล้อม
                             เป็นการค้นหาประโยชน์ และปัญหาที่จะกระทบต่อแผนในระยะยาวที่วางเอาไว้
*  วางแผนสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร (Internal Environment) การพิจารณาถึงบุคลากรในองค์กรว่ามีความสามารถเพียงพอที่จะใช้ระบบสารสนเทศหรือไม่
*  วางแผนสิ่งแวดล้อมภายนอกองค์กร (External Environment) พิจาณาถึงปัจจัยในด้านการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ 

ซอฟต์แวร์ และการขยายระบบในอนาคต หรือปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
ของซอฟต์แวร์

 3.  จับประเด็นที่เป็นกลยุทธ์
 การเลือกทิศทางที่องค์กรต้องการจะก้าวไปในอนาคต หรือในระยะยาวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น


4.  กำหนดกลยุทธ์
กลยุทธ์เป็นแผนระยะยาวที่องค์กรกำหนดขึ้น เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานขององค์กรให้บรรลุถึงเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่วางไว้
5.  กำหนดนโยบาย
   นโยบายเป็นแผนปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ ก็คือ กลยุทธ์เป็นแผนที่บอกถึงทิศทางการดำเนินไปให้ถึงเป้าหมาย แต่นโยบายเป็นแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้องค์กรดำเนินไปตามกลยุทธ์
6.  กำหนดแนวทาง และขั้นตอน
การนำนโยบายมาแตกย่อยเป็นวิธีและขั้นตอนในการปฏิบัติงานจริง ซึ่งเป็นงานของผู้บริหารระดับล่างที่จะเป็นผู้กำหนดแนวทางและขั้นตอนปฏิบัติเพื่อใช้ควบคุมการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน

4. วงจรพัฒาระบบ SDLC มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้างจงอิบาย
ตอบ     (System Development Life Cycle (SDLC))
ระบบสารสนเทศทั้งหลายมีวงจรชีวิตที่เหมือนกันตั้งแต่เกิดจนตายวงจรนี้จะเป็นขั้นตอนที่เป็นลำดับตั้งแต่ต้นจนเสร็จเรียบร้อย เป็นระบบที่ใช้งานได้ ซึ่งนักวิเคราะห์ระบบต้องทำความเข้าใจให้ดีว่าในแต่ละขั้นตอนจะต้องทำอะไร และทำอย่างไร ขั้นตอนการพัฒนาระบบมีอยู่ด้วยกัน 7 ขั้น ด้วยกัน คือ
1. เข้าใจปัญหา (Problem Recognition)
2. ศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study)
3. วิเคราะห์ (Analysis)
4. ออกแบบ (Design)
5. สร้างหรือพัฒนาระบบ (Construction)
6. การปรับเปลี่ยน (Conversion)
7. บำรุงรักษา (Maintenance)

 5. จริยธรรมหมายถึงอะไร 
ตอบ จริยธรรม หมายถึง คุณสมบัติทางความประพฤติ ที่สังคมมุ่งหวังให้คนในสังคมนั้นประพฤติ มีความถูกต้องในความประพฤติ มีเสรีภาพภายในขอบเขตของมโนธรรม (Conscience) เป็นหน้าที่ที่สมาชิกในสังคมพึงประพฤติปฏิบัติต่อตนเอง ต่อผู้อื่น และต่อสังคม ทั้งนี้เพื่อก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองขึ้นในสังคม การที่จะปฏิบัติให้เป็นไปเช่นนั้นได้ ผู้ปฏิบัติจะต้องรู้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด
6. ประเด็นทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ R.O. Mason และคณะ (2001) ได้จำแนกประเด็นเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเป็น 4 ประเภท คือ
          1.) ประเด็นความเป็นส่วนตัว (Privacy)
          2.) ประเด็นความถูกต้องแม่นยำ (Accuracy)
          3.) ประเด็นของความเป็นเจ้าของ (Property)
          4.) ประเด็นของความเข้าถึงได้ของข้อมูล (Accessibility)
                                                         

7. อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คืออะไร และจะมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างไรบ้างจงอธิบาย
ตอบ อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber-Crime) เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่อยู่บนระบบดังกล่าว ส่วนในมุมมองที่กว้างขึ้น อาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับคอมพิวเตอร์หมายถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆ ซึ่งอาศัยหรือมีความเกี่ยวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมประเภทนี้ไม่ถือเป็นอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์โดยตรง

อาชญากรรม 6 ประเภทดังกล่าวได้แก่
1.      การเงิน อาชญากรรมที่ขัดขวางความสามารถขององค์กรธุรกิจในการทำธุรกรรม อี-คอมเมิร์ซ(หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์)


2.      การละเมิดลิขสิทธิ์ การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นสื่อในการก่ออาชญากรรม แบบเก่า โดยการโจรกรรมทางออนไลน์หมายรวมถึง การละเมิดลิขสิทธิ์ ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจำหน่ายหรือเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์


3.      การเจาะระบบ การให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้สิทธิการเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การเจาะระบบยังอาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอื่นๆ (เช่น การปลอมแปลง การก่อการร้าย ฯลฯ) 


4.      การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ ผลสืบเนื่องจากการเจาะระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว เช่นเดียวกับการก่อการร้ายทั่วไป โดยการกระทำที่เข้าข่าย การก่อการร้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-terrorism) จะเกี่ยวข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน หรืออย่างน้อยก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว 


5.      ภาพอนาจารทางออนไลน์ ตามข้อกำหนด 18 USC 2252 และ 18 USC 2252A การประมวลผลหรือการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็กถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และตามข้อกำหนด 47 USC 223 การเผยแพร่ภาพลามกอนาจารในรูปแบบใดๆ แก่เยาวชนถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางใหม่สำหรับอาชญากรรม แบบเก่า อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่องวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการควบคุมช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่วโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่างกว้างขวาง 


6.      ภายในโรงเรียน ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับการศึกษาและสันทนาการ แต่เยาวชนจำเป็นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเครื่องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ โดยเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมาย สิทธิของตนเอง และวิธีที่เหมาะสมในการป้องกันการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด
-          การรักษาความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์
การรักษาความปลอดภัยให้ระบบสารสนเทศมีความปลอดภัย และยังช่วยลดข้อผิดพลาด การทำลายระบบสารสนเทศ มีระบบการควบคุมที่สำคัญ 3 ประการ คือ
     การควบคุมระบบสารสนเทศ
              *      การควบคุมอินพุท
      การควบคุมการประมวลผล
      การควบคุมฮาร์ดแวร์
      การควบคุมซอร์ฟแวร์
       การควบคุมเอาท์พุต
 การควบคุมกระบวนการ
 •                   มอบหมายให้หน่วยงานอื่นรับผิดชอบข้อมูลขององค์กร
 •                   การใช้รหัสผ่านในการเข้าถึงข้อมูลมูล
 •                   การสร้างแบ็คอัพไฟล์ข้อมูล
 การควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
                   การมีการทำงานที่เป็นมาตรฐานและคู่มือ
                   การอนุมัติเพื่อพัฒนาระบบ
                   การมีแผนการป้องกันการเสียหาย
                   การตรวจสอบระบบสารสนเทศ









วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด

                                                         

                                               แบบฝึกหัด  


1. ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของ E-Commerce คืออะไร
     ตอบ   -- E-Commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่องค์กรได้วางไว้ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทองค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้า เป็นต้น จึงลดข้อจำกัดของระยะทาง และเวลาลงได้ 

2. จงบอกประเภทของ E-Commerce  มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ตอบ -  1.การทำการค้าระหว่าง Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) กับ Business (ผู้ทำการค้า) เช่น ลูกค้าต้องการซื้อหนังสือกับร้านค้า
            2.การทำการค้าระหว่าง Business (ผู้ทำการค้า)  กับ Business ( ผู้ทำการค้า) เช่น ร้านขายหนังสือค้าต้องการสั่งซื้อหนังสือจากโรงพิมพ์
            3.การทำการค้าระหว่าง Business ( ผู้ทำการค้า)  กับ Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) เช่น โรงพิมพ์ต้องการซื้อต้นฉบับจากผู้เขียน4. การทำการค้าระหว่าง Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ)  กับ Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) ด้วยกันเช่น ผู้บริโภคต้องการขายรถยนต์ของต้นเองให้กับผู้บริโภคท่านที่สนใจ 


3.ประโยชน์และข้อจำกัดของ E-Commerce  มีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ
- ประโยชน์
1.เปิดดำเนินการค้า 24 ชั่วโมง
2.ดำเนินการค้าอย่างไร้พรมแดนทั่วโลก
3.ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
4.ตัดปัญหาด้านการเดินทาง
5.ง่ายต่อการประชาสัมพัธ์โดย สามารถประชาสัมพันธ์ได้ทั่วโลก

 
 - ข้อจำกัด
1.ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
2.จำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับอย่างมีประสิทธิภาพ
3.การดำเนินการด้านภาษีต้องชัดเจน
4.ผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต 


4. เทคโนโลยี EDI มีความสำคัญต่อ E-Commerce  อย่างไร
 - เพิ่มความถูกต้อง รวดเร็ว และแม่นยำ ในการรับ-ส่งเอกสาร 
    - ลดงานซ้ำซ้อน และลดขั้นตอนการจัดการรับ-ส่งเอกสาร
    - สามารถนำเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์มากที่สุด
    - ลดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร เช่น ค่าแสตมป์ ค่าพัสดุไปรษณีย์ และพนักงาน
    - เพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่มีการแข่งขันสูงขึ้น
    - เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า 


5. จงยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ B2B, B2C. C2C, B2G มาอย่างล่ะ 2 ตัวอย่าง
ตอบ
- B2B  รูปแบบธุรกิจของพาณิชย์แบบ B2B เช่น B2B Thai.comเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลธุรกิจไทย มีการจัดหมวดหมู่สินค้าตามประเภทอุตสาหกรรม พร้อมระบบในการค้นหาข้อมูลผู้ซื้อ ,ผู้ขาย และสินค้าตามต้องการได้โดยง่าย ช่วยผู้ซื้อลดเวลาค่าใช้จ่าย 

การสั่งสินค้าของร้านซีเมนต์ไทยโฮมมาร์ท ด้วยระบบอินเทอร์เนตไปยังบริษัท ซีเมนต์ไทยจำกัด (http://www.cementhaionline.com/) 



-B2C    รูปแบบธุรกิจของพาณิชย์แบบ B2C คือ การทำธุรกรรมของธุรกิจต่อผู้บริโภคทั่วไป เช่น http://www.amazon.com/ ธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้า, http://www.jobsdb.com/

    













- C2C  รูปแบบธุรกิจของพาณิชย์แบบ C2C คือ การทำธุรกรรมของผู้บริโภคต่อผู้บริโภคด้วยกันเอง การประกาศซื้อขายสินค้ามือสองใน http://www.thai2hand.com/ การประกาศฝากขายสินค้าในเว็บประมูล เช่น http://www.ebay.com/ หรือการใช้กระทู้สนทนาตามเว็บไซต์ชื่อดังเพื่อขายสินค้า เช่น http://www.pantip.com/ 
click and Motar ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่อิงอยู่กับอุตสาหกรรมเดิม พฤติกรรมของตลาดธุรกิจ จึงแตกต่างไปจากตลาดผู้บริโภคมาก ธุรกิจจะพัฒนาเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างธุรกิจด้วยกันเพื่อ ช่วยลดค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการสั่งสินค้าหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ก่อให้เกิดการไหลของข้อมูลระหว่างธุรกิจ เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์กันในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Relationships) มีการพัฒนาระบบจัดซื้อจัดหาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Procurement) หรือการพัฒนาระบบติดตามสินค้าและการบริการขนส่ง (e-Logistics and Tracking System) ทำให้การดำเนินธุรกิจระหว่างกันมีค่าใช้จ่ายลดลง แต่รวดเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น (E. Turban , 2002 : 219)ไทยเจมส์ (http://www.thaigems.com/) 

- B2G การประกอบธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ที่ใช้กันมากก็คือเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ หรือที่เรียกว่า e-Government Procurement ในประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว รัฐบาลจะทำการซื้อ/จัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เช่นการประกาศจัดจ้างของภาครัฐในเว็บไซต์ www.mahadthai.com

6. วิธีการชำระเงินอิเ้ลกทรอนิกส์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง และท่านเคยใช้หรือไม่อย่างไร
ตอบ- 
 1. บริการ internet banking และ/หรือธุรกิจประเภท Payment Gateway จะเป็น hyperlink ระหว่าง website ของร้านค้ากับระบบของธนาคาร และธนาคารสามารถดำเนินการตามข้อมูลที่ได้รับเพื่อตัดโอนเงินในบัญชีของลูกค้า หรือส่งเป็นคำสั่งโอนเข้าระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน 
         2. สำหรับการชำระเงินที่เป็น Micro Payment การใช้เงินดิจิทัลซึ่งบันทึกบนบัตรสมาร์ตการ์ด หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถสร้างเสริมระบบความปลอดภัยให้มั่นใจได้เหนือกว่าระบบบัตรเดบิตและบัตรเครดิตทั่วไป จึงเป็นแนวโน้มเทคโนโลยีที่น่าสนใจและเเละเหมาะสม



















ข่าวไอที >>Intel เปิดตัวซีพียูตัวใหม่ Iris มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเดิมหลายเท่า !



Intel เปิดตัวซีพียูตัวใหม่ Iris มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเดิมหลายเท่า !





รายละเอียด

หลาย ๆ คนคงรู้จักชื่อ Intel ในเรื่องของสมองกลหัวใจหลักของการประมวลผลในเครื่องคอมพิวเตอร์ Intel ได้สร้างชื่อเสียงในเรื่องของ CPU ประมวลผลต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Intel Pentium Intel Core2 Duo เป็นต้น Intel ได้พัฒนาฮาร์ดแวร์สำหรับประมวลผลมามากมายหลายรุ่น
ล่าสุด Intel ได้พัฒนาและเผยข้อมูลของชิพหรือแผงควบคุมหลักในการประมวลผลในส่วนของการ์ดจอ ชิพสำหรับการ์ดจอรุ่นนี้มีชื่อว่าIris ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าเดิมอย่าง CPU รุ่นที่ 3 หรือ Ivy Bridge ถึง 2 เท่า ซึ่งชิพ Iris นี้จะถูกออกแบบมาสำหรับ Ultrabook หรือโน๊คบุ๊ครุ่นสูงๆ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและการประมวลผลที่หนักหน่วง Intel Iris สำหรับการ์ดจอนี้จะมีสองรุ่นคือ Intel Iris Pro graphics 5200 และ 5100

intel-iris-small







นอกจากนี้ชิพ Iris ยังสนับสนุนการแสดงผลระดับ 4K UltraHD, OpenCL และ DirectX 11.1 อีกด้วย โดย Intel จะเปิดตัวชิพตัวนี้ที่เมืองนอกภายในเดือนมิถุนายนนี้ ก็ต้องรอดูกันว่าจะแรงกว่าเดิมอย่างที่โฆษณาไว้หรือไม่ครับ



intel-iris-small-benefits-small

   

แหล่งที่มา>>http://news.thaiware.com/2761-Intel-Iris.html








แนวโน้วของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตว่าเป็นอย่างไร


แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต

การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในคริสต์ศตวรรษที่21มีแนวโน้มที่จะพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีความสามารถใกล้เคียงกับมนุษย์ เช่น การเข้าภาษาสื่อสารของมนุษย์ โครงข่ายประสาทเทียม ระบบจำลอง ระบบเสมือนจริง โดยพยายามนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นลดข้อผิดพลาดและป้องกันไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย 

แนวโน้มใน ด้านบวก  

  • การพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ช่องทางการดำเนินธุรกิจ เช่น การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง และบันเทิงต่างๆ เกมออนไลน์ 
  • การพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถฟังและตอบเป็นภาษา พูดได้ อ่านตัวอักษรหรือลายมือเขียนได้ การแสดงผลของคอมพิวเตอร์ได้เสมือนจริง เป็นแบบสามมิติ และการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส เสมือนว่าได้อยู่ในที่นั้นจริง 
  • การพัฒนาระบบสารสนเทศ ฐานข้อมูล ฐานความรู้ เพื่อพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญและการจัดการความรู้  
  • การศึกษาตามอัธยาศัยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) การเรียนการสอนด้วยระบบโทรศึกษา (tele-education) การค้นคว้าหาความรู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากห้องสมุดเสมือน (virtual library) 
  • การพัฒนาเครือข่ายโทร คมนาคม ระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สาย เครือข่ายดาวเทียม ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทำให้สามารถค้นหาตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ  
  • การบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินการของภาครัฐที่เรียกว่า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government) รวมทั้งระบบฐานข้อมูลประชาชน หรือ e-citizen 



แนวโน้มใน ด้านลบ  

  • ความผิดพลาดในการทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบและพัฒนา ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบและสูญเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา 
  • การละเมิดลิขสิทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญา การทำสำเนาและลอกเลียนแบบ 
  • การก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ การโจรกรรมข้อมูล การล่วงละเมิด การก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์  



ระบบปัญญาประดิษฐ์  


       
   ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เป็นการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้มีความสามารถในการตอบสนองกับความต้องการของ มนุษย์ได้ ให้มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ มีความเข้าใจภาษามนุษย์ รับรู้ได้และตอบสนองด้วยการแสดงออกทางพฤติกรรมและภาษามนุษย์ 

ปัญญาประดิษฐ์ ประกอบด้วยสาขาวิชาต่างๆ ได้แก่ 

  • ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) 
  • โครงข่าย ประสาทเทียม (Artificial Neural Network) 
  • ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System)                                                             
  • ศาสตร์ด้านหุ่นยนต์ (Robotics)  

 ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) 

          ภาษาธรรมชาติกับการประยุกต์ใช้ภาษาไทยบน คอมพิวเตอร์ เป็นนำวิทยาการด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีด้านการประมวลผลภาษา ธรรมชาติมาพัฒนาโปรแกรมประมวลผลภาษาไทยบนคอมพิวเตอร์เพื่อให้ใช้งานได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย การประมวลผลตัวอักษร (Character) คำ (Word) ข้อความ (Text) ภาพ (Image) และความรู้ด้านภาษาศาสตร์ (Linguistics) 

           โครงข่ายประสาทเทียม (Artificial Neural Network) การสร้างคอมพิวเตอร์ที่จำลองเอาวิธีการทำงานของสมองมนุษย์ หรือทำให้คอมพิวเตอร์รู้จักคิดและจดจำในแนวเดียวกับโครงข่ายประสาทของมนุษย์ เพื่อช่วยให้คอมพิวเตอร์ฟังภาษามนุษย์ได้เข้าใจ อ่านออก และรู้จำได้ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น สมองกล 

เทคโนโลยีการสื่อสาร ทุกที่ ทุกเวลา  
          
ยูบิควิตัสเทคโนโลยี (Ubiquitous technology) สังคมยูบิควิตัส (Ubiquitous society) หรือ ยูบิคอมบ์ (Ubicomp) เป็นทำให้เกิดสภาพแวดล้อมของการสื่อสารใหม่และเป็นแนวโน้มของสังคมสารสนเทศ ยูบิควิตัส เป็นภาษาลาติน มีความหมายว่า อยู่ในทุกแห่ง หรือ มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง มาร์ค ไวเซอร์ (Mark Weiser) แห่งศูนย์วิจัย Palo Alto ของบริษัท Xerox ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำนิยาม "ยูบิควิตัสคอมพิวติง" ไว้ว่า เราสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้ทุกหนทุกแห่ง-สภาพแวดล้อมที่สามารถใช้ คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเครือข่าย ไม่ว่าจะอยู่ในที่แห่งใด

จุดเด่นของยูบิควิตัส ได้แก่  

  1. การเชื่อมต่อกับเครือข่ายไม่ว่าผู้ใช้งาน จะเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่างๆ 
  2. การ สร้างสภาพการใช้งานโดยผู้ใช้ไม่รู้สึกว่ากำลังใช้คอมพิวเตอร์อยู่  
  3. การให้บริการที่สามารถเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ทั้ง สถานที่ อุปกรณ์ ปัจจัยทางกายภาพอื่นๆ  



เทคโนโลยีสารสนเทศ กับการศึกษา  


          เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้กับการศึกษาได้แก่ สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือ CAI (Computer Aided Instruction) เทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้าขึ้นทำให้รูปการเรียนที่จำกัดด้วยชั้นเรียน ขนาดเล็กกลายเป็นการเรียนด้วยระบบการสื่อสารทางไกลหรือโทรศึกษา (tele-education) เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาและแก้ปัญหาการขาดแคลนอาจารย์ผู้สอน ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ตได้พัฒนาอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมมากขึ้นจึงได้ พัฒนาเป็น การเรียนการสอนผ่านเว็บเพจ WBI (Web Based Instruction) หรือ WBL (Web Based Learning) และได้มีการพัฒนาปรับปรุงเป็นสื่อการเรียนการสอนแบบ e-Learning (Electronics Learning) 
e-Learning คือ การนำเอาเทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเข้ามาช่วยในการเรียนการสอน การถ่ายทอดความรู้ การอบรม การ

ทดสอบและประเมินผลผ่านเว็บเพจ  
         
 Virtual Library Virtual Library หรือห้องสมุดเสมือน เป็นรูปแบบการให้บริการอีกช่องทางหนึ่งของห้องสมุดในปัจจุบัน โดยให้บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ในห้องสมุดเสมือน ได้ ข้อมูลที่ให้บริการจะอยู่ในรูปของข้อมูลดิจิทัล ทำให้เปิดโอกาสในการเรียนรู้ เป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดเวลา สามารถเข้าสู่ข้อมูลที่ให้บริการได้จากทุกแห่ง 
บริการของ Virtual Library ได้แก่ บริการสืบค้นข้อมูลรายการทรัพยากรสารสนเทศ (Online Public Access Catalog-OPAC) บริการฐานข้อมูลออนไลน์ บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ บริการสื่ออิเล็กทรอนิกส์ บริการแนะนำสารสนเทศที่น่าสนใจ 

นาโนเทคโนโลยี อาณาจักรจิ๋ว นวัตกรรมแห่งอนาคต  
         
 นาโทเทคโนโลยี กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งกับชีวิตประจำวันของเราและเป็นที่กล่าวขานกัน อย่างมากในขณะนี้ คำว่า "นาโน (nano)" แปลว่า 1 ในพันล้านส่วน เช่น นาโนวินาที เท่ากับ 10ยกกำลัง-9 หรือ 0.000000001วินาที 1 นาโนเมตร เท่ากับ 1/1,000,000,000 เมตร หรือ 0.000000001 เมตร 

          นาโนเทคโนโลยี คือ การทำให้โครงสร้างพื้นฐานของโมเลกุลขนาดระดับ 1 ถึง 100 นาโนเมตร กลายเป็นวัสดุหรืออุปกรณ์นาโนที่มีประโยชน์ สามารถนำมาใช้สอยได้ ซึ่งต้องอาศัยคุณสมบัติทางฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา ของระบบที่อยู่กึ่งกลางระหว่างอะตอม โมเลกุล กับวัตถุขนาดใหญ่ และสามารถควบคุมคุณสมบัติทั้งหลายได้ 
 
ตัวอย่างของความก้าวหน้าด้านนาโนเทคโนโลยี 

  1. วัสดุ ฉลาด (Smart materials) 
  2. ตัวรับรู้ หรือเซ็นเซอร์ (Sensors) 
  3. โครงสร้างชีวภาพขนาดนาโน (Nanoscale Biostructures) 
  4. คอมพิวเตอร์แบบควอนตัม  
  5. คอมพิวเตอร์ดีเอ็นเอ 



รัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์  
          
รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) คือ วิธีการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่อข่ายสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินการของภาครัฐ ปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชน บริการข้อมูลและสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ประชาชนได้รับการบริการจากภาครัฐที่ดีขึ้น มีความใกล้ชิดกับภาครัฐมากขึ้น อีกทั้งทำให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศได้ดีขึ้นด้วย 

          ที่มารัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์ของไทย โครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ดำเนินการโดยดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อมุ่งให้เห็นผลเป็นรูปธรรมในระยะ 2 ปี ดังนี้ 

1.การให้บริการต่อสาธารณะ โดยจะผลักดันเพื่อให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ  

  • การ ให้บริการข้อมูลที่ดี มีมาตรฐาน และคุณภาพแก่สาธารณะ อันได้แก่ ประชาชน ภาคธุรกิจ และ ภาครัฐ 
  • การให้ บริการที่ดีผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เป็น 4 ท. คือ ที่เดียว ทันใด ทั่วไทย ทุกเวลา  

 
2.การบริหารจัดการของรัฐ 

  • การ บริหารจัดการด้านการเงินระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ 
  • การจัดซื้อจัดจ้างผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่รวด เร็ว โปร่งใส ยุติธรรม  
  • การ บริหารข้อมูลและทรัพยากรภาครัฐ  
                                                                                                                                                    
                                                                                                                                    
3.การติดต่อสื่อสาร และประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ 

  • ภายในและระหว่าง กระทรวง 
  • ระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรส่วนท้องถิ่น  



ตัวอย่างของรัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย 

  1. การติดตามแกะรอยคนร้าย ปัจจุบันมี 3 ระบบงานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ คือ (1) ระบบฐานข้อมูลประวัติอาชญากร หรือ CDOS (Criminals Database Operating System) (2) ระบบตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติ หรือ AFIS (Automated Fingerprint Identification System) และ (3) ระบบคอมพิวเตอร์ประกอบภาพใบหน้าคนร้าย หรือ PICASSO (police Identikit: Computer Assisted Suspect Sketching Outfit) 
  2. ระบบสารสนเทศสำหรับงานประปา บริการเบ็ดเสร็จภายในคราวเดียว คือ จดมาตรจำนวนการใช้น้ำ พิมพ์ใบแจ้งหนี้ และส่งให้ลูกค้าได้ทันที โดยใช้เวลาทั้งสิ้นไม่เกิน 10 นาที ผู้ใช้บริการสามารถนำใบแจ้งหนี้ไปชำระเงินที่สาขาของการประปานครหลวง หรือที่ทำการไปรษณีย์ หรือที่ Counter Service หรือชำระผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยบัตรเครดิต  
  3. การยื่นแบบแสดงและชำระภาษีผ่านทางอินเทอร์เน็ต เข้าสู่ระบบได้ที่ www.rd.go.th มีบริการ 2 แบบ คือ 1. การบริการแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมโปรแกรมคำนวณภาษีเงินได้ และ 2. การยื่นแบบทางอินเทอร์เน็ต  
  4. จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การประมูลแบบออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต เว็บไวต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ คือ www.gprocurement.go.th หรือเว็บไซต์ของหน่วยงานที่จัดประมูล  
  5. ระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริการสาธารณะผ่านอิน เทอร์เน็ต บริการด้านงานทะเบียนราษฎรผ่านทางอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ www.dopa.go.th  และ www.khonthai.com ของสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง  
  6. บริการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอินเทอร์เน็ต กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เริ่มเปิดให้บริการค้นหาข้อมูลธุรกิจ และการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์  www.thairegistration.com 
  7. การบริการต่อทะเบียนรถ และชำระภาษีรถผ่านอินเทอร์เน็ต กรมการขนส่งทางบก มุ่งเน้นที่จะให้บริการประชาชนในรูปแบบออนไลน์ บริการได้ทันทีทันใด ทั่วไทย แบบ One-Stop-Service โดยสามารถเข้าไปใช้บริการผ่านเว็บไซต์ www.dlt.moct.go.th   
  8. การ จัดทำหนังสือเดินทาง กองหนังสือเดินทาง กรมการกงศุล กระทรวงต่างประเทศ ได้เชื่อมโยงข้อมูลบุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง เพื่อใช้ในการตรวจสอบหลักฐานการขอทำและขอต่ออายุหนังสือเดินทาง โดยประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเป็นหลักฐานประกอบการขอทำ หนังสือเดินทางได้โดยไม่ต้องนำเอกสารมามากมายเหมือนที่ผ่านมา  
 


e-Citizen  
e-Citizen ประกอบด้วย ส่วนสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่  

  1. Citizen e-DB ฐานข้อมูลประชาชน
  2. Citizen e-ID การพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล 
  3. Citizen e-Service การบริการประชาชน 


ประโยชน์ที่ได้รับจากการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ 

  1. เพิ่ม ประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงานรัฐ
  2. เพิ่มคุณภาพในการบริการประชาชนให้สะดวกรวดเร็ว 
  3. สร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานและให้บริการ 
  4. ลดต้นทุนการดำเนินงานและการให้บริการของหน่วยงาน ภาครัฐ 
  5. . เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 


  

สรุป 

           
ในสังคมสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก คนในสังคมมีการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง คนทุกระดับอายุ เกือบทุกอาชีพ มีความต้องการสารสนเทศอยู่ตลอดเวลาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทั้งทางตรงและทาง อ้อม เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและเริ่มนำมาประยุกต์ใช้ไม่ว่าจะเป็น ระบบปัญญาประดิษฐ์ ยูบิควิตัส การเรียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการบริหารประเทศก็ยังมีการตั้งโครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ พวกเราที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมสารสนเทศจึงควรเตรียมความพร้อมในการปรับตัว เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกในการ ดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาความรู้ การประกอบธุรกิจ การบริหารจัดการ การพักผ่อนและบันเทิง รวมทั้งการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิตของตนเอง  

 
ที่มา : http://www.maplehack.org